มาชะลอความเสื่อมด้วยสารอาหาร

คนเราอายุที่เพิ่มขึ้นทุกปี ทำให้ยิ่งเข้าสู่ความเสื่อมของระบบในร่างกายเข้าไปทุกปีเช่นเดียวกัน แต่มีคนบางกลุ่มที่ซ้ำเติมให้ร่างกายเกิดความเสื่อมเร็วก่อนวัยอันควร เช่นการรับประทานอาหารที่ไม่ถูกสัดส่วน การอดนอนต่อเนื่องกันเป็นเวลานาน การเครียดและขาดการออกกำลังกายเป็นต้น เหล่านี้เป็นเครื่องซ้ำเติมร่างกายให้เข้าสู่ความเสื่อมเร็วขึ้น ถ้าเป็นน้อยๆ ก็จะพบว่าร่างกายรู้สึกอ่อนเพลียง่าย ง่วงหลับขณะทำงานเป็นประจำ ตื่นเช้ามาลืมตาไม่ค่อยขึ้น แต่ถ้าปล่อยให้ดำเนินต่อไปนานขึ้นก็จะเสี่ยงต่อการเกิดโรคหัวใจและหลอดเลือด โรคมะเร็ง ซึ่งจะเห็นว่าถ้าเราหันกลับมาใส่ใจสุขภาพแต่เริ่มต้นมันง่ายนิดเดียวที่จะดูแลร่างกายให้มีสุขภาพที่สมบูรณ์แข็งแรง การพักผ่อนให้เพียงพอและการออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอเป็นสิ่งที่ช่วยชะลอความเสื่อมของร่างกายได้ แต่ยังมีปัจจัยสำคัญอีกหนึ่งอย่างคืออาหารนั่นเอง ซึ่งทำให้ร่างกายจะเกิดโรคหรือดูแลเมื่อเป็นโรคแล้วก็ต้องใช้อาหารทั้งสิ้น
              การรับประทานให้ครบสัดส่วน และครบ 5 หมู่เพื่อสุขภาพที่ดี คำนี้เป็นคำง่ายๆ ที่มักได้ยินจากบุคลากรการแพทย์เป็นประจำแต่การปฏิบัตินั้นเป็นสิ่งยากยิ่ง การรับประทานอาหารให้ครบ 5 หมู่นั้นยังต้องคำนึงถึงสัดส่วนที่เหมาะสมอีกด้วย หากได้รับแป้งหรือไขมันไม่เหมาะสมก็ก่อให้เกิดการอักเสบและความเสื่อมต่อร่างกาย    คนเราควรรับประทานอาหารประเภทข้าวแป้งเป็นหลัก ตามด้วยผักให้หลากสีเลือกรับประทานให้ได้มากกว่า 3 สีถึง 5 สีต่อวัน ผักแต่ละสีนั้นมีสารต้านอนุมูลอิสระของแต่ละชนิด การได้รับหลากสีทำให้เราได้รับสารต้านอนุมูลอิสระหลายชนิดป้องกันความเสื่อมได้ดี เนื้อสัตว์เลือกทานแต่พอเหมาะหลีกเลี่ยงเนื้อแดงและเนื้อสัตว์ติดมัน เพราะการทานเนื้อสัตว์ติดมันจะทำให้กระเพาะอาหารทำงานหนักขึ้นในการย่อยอาหารร่างกายจะรู้สึกแน่นท้องนานกว่าอาหารประเภทอื่น ไขมันสัตว์ยังก่อนให้เกิดไขมันในเลือดสูงได้ง่าย และไขมันสัตว์เมื่อโดนความร้อนโดยตรงจะเปลี่ยนเป็นสารก่อมะเร็งที่รุนแรงกรณีทานเนื้อสัตว์ปิ้งย่างควรได้รับสารพวกกลุ่มโพลีฟีนอลจากชาเขียวไว้ป้องกัน (ทุกครั้งที่กินเนื้อสัตว์ปิ้งย่าง ควรจิบน้ำชาเขียวหรือได้รับสารสกัดจากชาเขียวตามด้วยเพื่อลดการก่อมะเร็ง)
            ผลไม้เลือกผลไม้ไม่หวานจัด ผลไม้ที่มีเส้นใยอาหารสูงและวิตามินซีสูงคือฝรั่ง ซึ่งการได้รับใยอาหารที่เพียงพอทำให้ลำไส้ได้ออกกำลังกายขับสารพิษที่ตกค้างออกมา และได้รับสารต้านอนุมูลอิสระในรูปธรรมชาติที่ดูดซึมได้ง่าย แต่เมื่อไหร่กินผลไม้ใยอาหารสูงแล้วดื่มน้ำน้อยก็จะเกิดปัญหาท้องผูกได้เหมือนกัน จึงขอฝากไว้เป็นเกร็ดเล็กเกร็ดน้อยทุกครั้งกินผลไม้มีเส้นใยสูงต้องดื่มน้ำตามให้มาก 2 แก้วขึ้นไปเพื่อให้ใยอาหารอุ้มน้ำที่ดื่มเข้าไป ทำให้ร่างกายได้รับประโยชน์จากผลไม้ละใยอาหารมากที่สุด

ด้วยความปรารถนาดีจาก  โรงพยาบาลมะเร็งลำปาง  “ ใส่ใจค้นหา  บำบัดรักษาโรคมะเร็งให้คุณ ต้องการข้อมูลเพิ่มเติมติดต่อได้ที่ เบอร์โทรศัพท์ 054 – 335262 – 8 ต่อ187

ข้อมุลโดย  Dr.Kamon Chaiyasit
Medical Nutrition Council; American Society for Nutrition, USA